[เน็กซ์แอริย๊ะ] วันที่ 6 – แผนเที่ยวญี่ปุ่น 10 วัน แบบมีตั๋ว JR Rail Pass 7 วัน เริ่มที่ฟูกุโอกะ – โอซาก้า – โตเกียว – ขับรถเล่นรอบภูเขาไฟฟูจิ – จบทริปฟูกุโอกะ

วาสสสซาบบบ..และนี่คือเสียงของเด็กเน๊กซ์ เน็กซ์แอริย๊ะเว็บที่จะพาทุกคนไปลุยทุกที่กับแกงค์พี่น้องคนละท้องเดียวกัน

สวัสดีค่า หนุกหนิงเด็กเน็กซ์รายงานตัว ผ่านมาครึ่งทางของแผนเที่ยว 10 วันกันแล้ว เจอทั้งฝน แดด หนาวยะเยือก ปรับตัวกันวันต่อวัน แต่แผนของเรายังไม่มีการปรับเปลี่ยนใดๆ ถือว่าเพื่อนร่วมทางให้ความร่วมมือกันดีมากๆ (ความสุขของการเที่ยวอย่างนึงคือไปกับแกงค์ที่ไปไหนไปกันนี่แหละ:) ถึงแม้น้องๆจะมีอาการเจ็บคอ ตัวร้อนเหมือนจะไม่สบาย ก็กินยาดักรอไว้เลย ใครที่เริ่มมีอาการเหมือนจะเป็นไข้แนะนำยาแบบแคปซูล และยาแบบผง ตามด้านล่างนี้เลยค่ะ เป็นตัวที่ขายดีและได้ผลชะงักดีแล

แผนเที่ยววันที่ 6 ใสจริงใสจัง Oshino Hakkai หมู่บ้านน้ำใส – วิวฟูจิหลักล้านในร้านโซบะ

ต่อเนื่องจากเมื่อวาน ฟูจิซังมาส่งเข้านอน พอตื่นเช้ามาก็โอฮาโยกันต่อเลยค่ะ ท้องฟ้ายังเป็นใจต่อเนื่อง 2 วันติด ตามพยากรณ์อากาศเป๊ะ ไม่เคยรู้สึกสดชื่นที่ต้องตื่นเช้าเท่านี้มาก่อน ^^ นั่งจิบชาไปด้วย รับลมอากาศเย็นสบายไปด้วย ถ้าไม่ต้องเช็คเอาท์ก็จะนั่งมันตรงนี้ทั้งวันเลยแหละ >< แต่พอได้เวลาเกือบ 10 โมงก็ต้องลงไปเช็คเอาท์ มีบริการรถบัสจากโรงแรมส่งฟรีถึงสถานีรถไฟคาวากุจิโกะเลยค่ะ

ถึงสถานีรถไฟแล้วก็แวะถ่ายรูปรถไฟนารุโตะ ที่จอดเรียงกับรถไฟลายการ์ตูนน่ารักๆอีกหลายขบวน มีแบล็คกราวน์เป็นฟูจิซัง เดี๋ยวขากลับเราค่อยนั่งรถไฟกลับกันค่ะ ตอนนี้ยังมีเวลาทั้งวันไปรอรถบัสที่ป้ายหมายเลข 6 แล้วสังเกตรถบัส F-Line สายสีเหลืองแบบในรูปด้านล่างก็ขึ้นได้เลย (จ่ายเงินตอนลง) เราจะลงป้าย Oshino Hakkai หมู่บ้านน้ำใสกันค่า

ถึงแล้วก็เจอฟูจิซังต้อนรับทุกที่ทุกเวลา จะหันไปทางไหนก็เจอ

ถ้าหาทางเข้าไม่เจอ คลิกตามพิกัดนี้ ได้เลยค่ะ ระหว่างทางจะเจอร้านขายไอศกรีม, โมจิสตอร์เบอรี่, ดังโงะ (แม่ค้าพูดไทยชัดมาก) และเนื้อย่างที่คิวต่อแถวยาวพอสมควร


ถึงจะเดินแวะทานไปหลายอย่าง แต่ก็ยังรู้สึกว่า “ไม่อยู่ท้อง ไม่อิ่ม” ต้องหาร้านนั่งทานจริงจังแล้วหละ แล้วก็เจอร้านแรกที่เข้าไปแบบไม่ได้คาดหวังอะไร เป็นร้านขายโซบะ ราเมง ปลาย่าง หน้าตาร้านธรรมดาๆ ชื่อว่า 御食事処はんのき食堂 พิกัดคลิกตรงนี้ แต่พอเข้าไปด้านใน OMG++ มันจะวิวแปดล้านเก้าแสนอะไรขนาดนี้ คือดี๊!! วิวหลักล้านมากแม่ คุ้มค่าแล้วที่หิวจนเดินเข้าร้านนี้ร้านแรก 55+


และนี่คือมุมที่ถ่ายจากร้านโซบะ ที่อยู่ติดกับพิพิธภัณฑ์! ซึ่งปกติต้องเสียเงินเข้าพิพิธภัณฑ์ถึงจะได้รูปมุมนี้และเห็นฟูจิซังชัดๆแบบนี้ (ประมาณคนละ 300 เยน) ทำให้ในร้านต้องมีป้ายติดไว้ว่า “ห้ามกระโดดข้ามรั้วเข้าไป” เพราะรั้วติดกับบริเวณด้านในพิพิธภัณฑ์แบบนี้เลยจ้า


อิ่มแล้วก็เดินช้อปปิ้ง, ถ่ายรูปกับซากุระ-ฟูจิซัง ที่สำคัญต้องไม่ลืมพิสูจน์ว่าน้ำจะใสตามชื่อ “หมู่บ้านน้ำใส” จริงไหม

ตะไคร่น้ำบ่งบอกอายุการใช้งานมาก

เราเดินมาถึงบ่อน้ำที่มีความลึก 8 เมตร และเป็น 1 ใน 100 แหล่งน้ำที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น เป็นมรดกแห่งชาติที่นักท่องเที่ยวต่างเข้ามาจุดนี้เพื่อขอพรและดื่มน้ำ (เชื่อว่าช่วยให้ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ) ส่วนความใสของน้ำไม่ต้องพูดถึง เห็นยันก้นบ่อเลยค่ะ เห็นน้องปลาทุกตัวชัดเจน แม้แต่เหรียญที่เขาห้ามโยนก็ยังมองเห็นที่ก้นบ่อ ><


บ่ายสามแล้วต้องรีบไปรอรถบัสตรงทางเข้าหมู่บ้าน (สังเกตมีกรวยรูปฟูจิอันใหญ่ๆ) ยืนรอ-นั่งรอ รอจนถึงเวลาที่รถต้องมาแล้วแต่ก็ยังไม่มา บางคนโทรให้โรงแรมเรียกรถแท็กซี่มารับ เรายังสงสัยถึงตอนนี้..เป็นไปได้ยังไงรถบัสมาสาย!! สายแบบเป็นชั่วโมง!! แต่สุดท้ายก็มาค่ะ ทำให้เราต้องรีบยกเลิกตั๋วรถบัสขากลับ Shinjuku และซื้อตั๋วรถไฟจาก Kawaguchiko ไปลงสถานี OTSUKI ค่าตั๋วคนละ 1170 เยนแทน พอไปถึงสถานี OTSUKI ก็ใช้ตั๋ว JR Rail Pass ไปลงสถานี Shinjuku ต่อได้เลย สรุปจากที่จะได้นั่งรถบัสกลับ ก็ได้ประสบการณ์ใหม่ ยืนบนรถไฟตลอดสายประมาณ 2 ชม. ^^! เพราะมีคนใช้บริการเยอะมากจริงๆค่ะ เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยประหยัดและเหมาะกับคนที่ไม่รีบกลับนั่นเอง


กลับเข้าเมืองแล้ว ไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้ที่ล็อกเกอร์ แล้วก็มาเช็คอินกันก่อนค่ะ คืนนี้เราพักกันที่ Ryogoku view hotel พิกัดคลิกตรงนี้ สามารถมองเห็นวิวรถไฟได้ชัดเจน เป็นที่พักที่หาเจอง่ายที่สุดแล้ว เดินออกจากสถานี Ryogoku ก็เจอเลย ซึ่งสถานีนี้เป็นสถานีที่เชื่อมกับรถไฟใต้ดินและรถไฟ JR จะไปไหนก็สะดวก ที่สำคัญมีพนักงานคนไทยใจดีมาก ที่รู้ว่าเป็นคนไทยเพราะเราคุยกับน้องๆเรื่องจะฝากกระเป๋าตอนเช็คเอาท์ พนักงานเลยถามว่า “คนไทยเหรอคะ” แล้วก็ได้เม้าส์กันนิดหน่อย เป็นการฝากกระเป๋าที่สบายใจที่สุดเท่าที่เคยไปญี่ปุ่นมาเล้ย 55+

เดินออกมาซอยข้างที่พัก เป็นถนนที่เต็มไปด้วยของกินนานาชาติ จะยุโรป, เกาหลี, ญี่ปุ่น ก็มีหมด มื้อดึกวันนี้เราเลือกร้าน Matsuya Ryogoku พิกัดคลิกตรงนี้ เพราะเป็นร้านที่ยังเปิดอยู่ (ปิดตี 2) การสั่งอาหารที่นี่จะต้องกดเลือกเมนูที่ตู้, จ่ายตังค์ที่ตู้ แล้วยื่นตั๋วให้พนักงานที่เคาเตอร์ จากนั้นก็ไปนั่งรอที่โต๊ะได้เลยค่ะ

พอทานข้าวเสร็จก็ไม่ลืมทานยาอีกรอบค่ะ เดินทางทั้งวัน ยืนทั้งวัน ปวดร้าวไปทั้งตัวคืนนี้นอนพักยาวๆได้เลย เพราะเรายังอยู่ที่โตเกียวอีก 3 คืน ระหว่างเดินกลับที่พักก็แวะเติมของตุนในตู้เย็น ที่ Family Mart ต้องชิมให้ได้คือแฮมชีท เค็มๆแต่ก็มันดีนะ หวังว่าแผนเที่ยวทั้ง 6 วันนี้จะทำให้เด็กเน็กซ์ทุกคนเริ่มเตรียมตัวแพ็คกระเป๋าบ้างแล้ว แต่ความสนุกยังไม่หมดแค่นี้ พรุ่งนี้ห้ามพลาด! ได้เวลาปล่อยของ ได้เวลาลองฝีมือเทพกาชาเปที่ Akihabara กันแล้ว จะได้ฟิกเกอร์ หรือกาชาอะไรน่าสนใจกลับมาบ้าง รอลุ้นพรุ่งนี้ได้เล้ย บัยยย

แผนเที่ยววันที่ 1 – 5 สามารถคลิกดูเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์ด้านล่างเลยค่ะ

แผนเที่ยววันที่ 1 แลกตั๋ว JR – พักที่เมือง Yufuin (ยูฟูอิน)

แผนเที่ยววันที่ 2 เที่ยวพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ – ปั่นจักรยาน – ชมดอกไม้ ที่ Uminonakamichi Seaside Park

แผนเที่ยววันที่ 3 นั่งชินคันเซ็นมุ่งสู่โอซาก้า – ตลาดปลา Kuromon Ichiba Market – ป้ายกูลิโกะ Dotonbori Namba

แผนเที่ยววันที่ 4 เล่นรถไฟเหาะตีลังกา – ช้อปปิ้งที่ Universal Studios

แผนเที่ยววันที่ 5 ขับรถในญี่ปุ่นครั้งแรก – ชมฟูจิซังเต็มตาเต็มใจ