Oscar Isaac นักแสดงมาเวลใน Disney+ จากซีรีส์เรื่อง Moon Knigh ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนฉายซีรีส์กับ NME เกี่บวกับการแสดงหนังเรื่องนี้ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแสดงเป็นตัวละครที่มีบุคลิกแตกต่างกันแบบใน Moon Knigh
ไอแซคอายุ 43 ปี ชื่อเต็มของไอแซคคือ Óscar Isaac Hernández Estrada เกิดในกัวเตมาลาซิตี้ โดยมีแม่เป็นชาวกัวเตมาลาและพ่อเป็นชาวคิวบา และได้ย้ายไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกาพร้อมทั้งครอบครัวตั้งแต่ยังเป็นทารก
ไอแซค เคยแสดงภาพยนตร์อื่นๆ เช่น นักบินผู้กล้าหาญ Poe Dameron ใน Star Wars และ Duke Leto Atreides ในภาพยนตร์ไซไฟเรื่อง Dune นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์จาก มาร์เวล En Sabah Nur วายร้ายใน X-Men: Apocalypse
ตัวละคร Steven Grant ไม่ใช่ซูเปอร์ฮีโร่ทั่วไป เพราะเขาเป็น Dissociative Identity Disorder (DID) แต่เขายังไม่รู้ตัวเมื่อเราพบเขาในตอนแรก ผู้ที่มีภาวะสุขภาพจิตนี้ มีความสัมพันธ์กับความบอบช้ำทางจิตใจ และการทารุณกรรมในวัยเด็ก จนเกิดการรักษาตัวเองที่สามารถสร้างบุคลิกที่แตกต่างกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป และอาจประสบกับช่องว่างด้านความจำ
แกรนท์ รู้สึกราวกับว่าเขาสูญเสียวันเวลาไปครั้งแล้วครั้งเล่า จนกว่าเขาจะรู้ตัวว่าตัวเองยังเป็น มาร์ค สเปคเตอร์ หรือที่รู้จักว่า Moon Knight ทหารรับจ้างชาวอเมริกันที่มีรอยแผลเป็นจากการสู้รบ ซึ่งทำหน้าที่เป็นอวาตาร์ให้กับ คอนชู เทพเจ้าแห่งดวงจันทร์ของอียิปต์และการแก้แค้น
“นี่เป็นครั้งแรกสำหรับ MCU ที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลและ DID ของพวกเขา” ไอแซคกล่าวอย่างภาคภูมิใจ เนื่องจาก แกรนท์ และ สเปคเตอร์ คืออวาตาร์ที่ไม่เต็มใจของ คอนชู พวกเขาจึงพบว่าตัวเองถูกขังอยู่ในความขัดแย้งกับ อาร์เธอร์ แฮร์โรว์ (อีธาน ฮอว์ค) ผู้นำลัทธิที่ได้รับพลังพิเศษจากพระเจ้าอัมมิตของอียิปต์ ซึ่งแฮร์โรว์ เชื่อว่าเขาสามารถรักษาโลกได้และพร้อมที่จะฆ่าผู้บริสุทธิ์ที่ขวางทางเขา
สิ่งที่ไอแซคทำฟังดูซับซ้อนและเหนื่อยยาก บางครั้งที่เขาต้องเล่นแกรนท์และสเปคเตอร์พร้อมกัน ในฉากที่ตัวละครทั้งสองทะเลาะกัน ส่วนที่สนุกเกี่ยวกับการเป็นนักแสดง คือ การตอบสนองต่อบางสิ่ง เช่น คู่หูของคุณทำสิ่งที่แตกต่างออกไป ซึ่งทำให้เปลี่ยนวิธีการทำของคุณ และบางครั้งใน Moon Knight ฉันปรากฏตัวในกองถ่ายและมันจะเป็นฉากที่แสดงกับตัวเอง ฉันจึงต้องคิดว่าฉันอยากแสดงเป็นใครคนแรก
ไอแซค ได้เล่ารายละเอียดว่าพี่ชายของเขาเป็น นักแสดงที่ยอดเยี่ยม ช่วยเขาสร้างตัวละคร Moon Knight ได้อย่างไร “สมมุติว่า มาร์ค เป็นคนขับเคลื่อนฉากนี้จริงๆ ฉันจะทำ มาร์ค ก่อน เพราะว่า สตีเวน จะตอบโต้กับ มาร์ค ดังนั้นฉันจะทำ มาร์ค แล้วพูดกับพี่ชายของฉันว่า “คุณทำสิ่งที่ฉันเพิ่งทำได้ไหม” เพื่อที่ฉันจะได้ตอบสนองต่อสิ่งนั้นในฐานะสตีเวน จากนั้นฉันก็จะซ้อมมันในฐานะสตีเวนและดูว่ามันรู้สึกอย่างไร”
เมื่อฉากเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ไอแซคจะกลับไปกลับมาระหว่างมาร์คและสตีเวน และให้แนวทางกับพี่ชายของเขาในการปรับแต่งแต่ละครั้ง ตลอดเวลา เขายังพยายามจำการบล็อกของเขา หรือท่าของกล้อง เป็นตัวละครทั้งสอง “มันบ้ามาก มันเป็นความท้าทายทางเทคนิคที่บ้ามาก” เขากล่าว
ไอแซค ยังเน้นว่าสิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติต่อแกรนท์และสเปคเตอร์เป็นตัวละครที่แตกต่างกันเพื่อความสมจริง จากการค้นคว้าของฉันใน DID นั่นคือสิ่งที่มันเป็น เขากล่าว “ไม่ใช่ว่ามีเวอร์ชั่นอื่นของคุณ คุณต้องเคารพว่าแต่ละบุคลิกเป็นบุคคลที่มีรูปแบบสมบูรณ์เพราะนั่นคือสิ่งที่พวกเขาเป็น“
เขามุ่งมั่นที่จะเข้าใจกระบวนการจากประสบการณ์ ของ DID ที่รู้สึกจริงๆ “ฉันจึงไม่ได้ทำการแสดงเท่านั้น แต่ต้องแน่ใจว่าทุกส่วนของการแสดงทั้งหมดเป็นการแสดงออกถึงสิ่งนั้น มันเป็นการแสดงที่มีพลังมาก เพราะต้องใช้การสืบสวนอย่างต่อเนื่องและพลังงานที่สร้างสรรค์“
หลังจากซีรีส์ Moon Knigh ตอนสุดท้ายได้ฉายไป หลายๆ คนอยากให้มีซีซั่นต่อ เพราะการแสดงของ ไอแซค ที่ทำให้เราได้สนุกกับตัวละครขนาดนี้ จากบทสัมภาษณ์ก็ได้เห็นถึงความตั้งใจของเขา เพราะ DID ไม่ได้แสดงออกมาได้ง่ายๆ เป็นเรื่องที่ลึกซึ้งและยากมากจริงๆ ในการถ่ายทอดออก จากบุคคลเดียวในหลายบุคลิกออกมาให้ได้รับชม
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก: nme.com/ imdb.com